สถานที่ท่องเที่ยวในพื้นที่ใกล้เคียง
ภายในแขวงวชิรพยาบาล
(ชุมชนท่าน้ำสามเสน)
วัดราชาธิวาสวิหาร
(ที่มา : ธนภัทร์ ลิ้มห ัสนัยกุล จาก https://readthecloud.co/wat-rajadhivas/)
วัดราชาธิวาสวิหาร เป็นวัดเก่าแก่ที่ได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์จากพระมหากษัตริย์มาตั้งแต่สมัยพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 มีสถานะเป็นพระอารามหลวงชั้นโทชนิดราชวรวิหาร และเป็นพระอารามหลวงฝ่ายธรรมยุต สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1820 และได้รับการผูกพัทธสีมาเมื่อ พ.ศ. 2310 (กองพุทธสถาน) ตั้งอยู่ริมฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยาหรือฝั่งพระนคร ห่างจากสนามหลวงไปทางเหนือประมาณ 2 กิโลเมตร ลักษณะพื้นที่เป็นที่ราบ น้ำท่วมถึงเป็นบางส่วน มีถนนใหญ่ผ่านกลางวัด (ถนนสามเสน ๙ หรือซอยวัดราชา) จากถนนสามเสนถึงแม่น้ำเจ้าพระยา ในวัดมีเนื้อที่ทั้งสิ้น ๓๔ ไร่ ๒ งาน ๖๓ ตารางวา
ศาลาการเปรียญไม้สัก
(ที่มา :http://www.dhammathai.org/watthai/bangkok/watrajathiwas.php)
จิตรกรรมปูนเปียก เรื่องพระเวสสันดร
(ที่มา : http://www.dhammathai.org/watthai/bangkok/watrajathiwas.php)
วัดราชาธิวาสวิหารเป็นหนึ่งในวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากเคยเป็นที่ประทับของพระบามสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เมื่อครั้งออกผนวช และเป็นสถานที่กำเนิดนิกายธรรมยุติกนิกาย
พระอุโบสถแห่งนี้เคยได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชการที่ 5 โดยเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ (นายช่างใหญ่แห่งรัตนโกสินทร์) มีลักษณะแบบศิลปะไทยผสมผสานกับศิลปะขอมและตะวันตก ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปเก่าสมัยอยุธยาตอนปลาย และมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่มีการใช้เทคนิคแบบตะวันตกด้วย นอกจากพระอุโบสถ วัดแห่งนี้ยังมีศาลาการเปรียญไม้สักทองและพิพิธภัณฑ์มหาราชานุสรณ์ ร.4 ตั้งอยู่ด้วย อีกทั้งยังมีศูนย์พระธรรมวันอาทิตย์ที่เปิดสอนพุทธประวัติ และศิลปวัฒนธรรมไทยแก่เด็กรุ่นใหม่ เช่น การฝึกมโนราห์ และการบรรเลงดนตรีไทย และยังมีประเพณีเก่าแก่ที่เป็นที่รู้จัก คืองานบุญสารทเดือนสิบ และการชิงเปรต ซึ่งจัดขึ้นทุกปีในเดือนสิบตามปฏิทินไทย
รายละเอียดเพิ่มเติม
-
ประเภทของสถานที่ : ศาสนสถาน
-
ที่ตั้ง: ถนนสามเสน แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300
-
สิ่งอำนวยความสะดวก: มีบริการที่จอดรถ
-
ผู้ดูแล: พระธรรมกวี (ลือชัย คุณวุฑฺโฒ)
-
เบอร์โทรศัพท์: 02 668 7988
-
เว็บไซต์ : www.watraja.org
พิพิธภัณฑ์มหาราชานุสรณ์ ร.4
พิพิธภัณฑ์มหาราชานุสรณ์ ร.4 เป็นอาคารสองชั้นที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ว่า ครั้งหนึ่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เคยเสด็จมาประทับที่วัดสมอราย หรือปัจจุบันคือ วัดราชาธิวาสราชวิหาร อีกทั้งยังผนวชอยู่นานถึง 10 ปี
บริเวณอาคารชั้น 2 มีการจัดแสดงสิ่งของเครื่องใช้ของพระสงฆ์ ส่วนใหญ่เป็นของที่ทางวัดได้รับพระราชทานมา ห้องจัดแสดงแยกออกตามประเภท ได้แก่ ห้องผ้า ห้องเครื่องเจียระไน ห้องเครื่องเคลือบ ห้องปั้นชา ห้องเครื่องมุกเครื่องถมปัด ห้องเครื่องทองเหลือง และห้องคัมภีร์ใบลาน ส่วนบริเวณชั้นล่างเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม สำหรับสถานศึกษาต่างๆ ที่สนใจสามารถติดต่อพานักเรียนนักศึกษามาปฏิบัติธรรมได้ โดยทางวัดจะทำการจัดที่พักและจัดหาผู้ให้ความรู้ในการปฏิบัติธรรม
รายละเอียดเพิ่มเติม
-
ประเภทของสถานที่ : แหล่งเรียนรู้
-
ที่ตั้ง: วัดราชาธิวาสราชวิหาร เลขที่ 3 ถนนสามเสน 9 แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิตกรุงเทพมหานคร 10300
-
สิ่งอำนวยความสะดวก: มีบริการที่จอดรถ
-
ผู้ดูแล: วัดราชาธิวาสราชวรวิหาร และชุมชนวัดราชา
-
เบอร์โทรศัพท์: 02-241-4679, 02-241-4679, 02-668-7988, 081-251-7165 (พระครูปลัด กวีวัฒน์) โทรสาร : 02 2247730
วัดคอนเซ็ปชัญ
วัดคอนเซ็ปชัญแห่งพระแม่เจ้า (Immaculate Conception Church) เป็นโบสถ์คาทอลิกที่ก่อตั้งมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ตั้งอยู่บนที่ดินพระราชทานที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชพระราชทานให้กับพระสังฆราช หลุยส์ ลาโน (Bishop Louis Laneau) บาทหลวงชาวฝรั่งเศสที่เข้ามาเผยแผ่ศาสนาในกรุงศรีอยุธยาเมื่อ พ.ศ. 2217 หรือในปัจจุบันเรียกว่าเขตบ้านเขมร นอกจากสร้างโบสถ์ ยังมีการสร้างโรงพยาบาลชื่อ ‘แม่พระปฏิสนธินิรมล’ เพื่อเทิดพระเกียรติพระนางมารีย์ พระมารดาของพระเยซูด้วย
แต่เดิมโบสถ์แห่งนี้มีลักษณะเป็นอาคารไม้ขนาดใหญ่ สร้างด้วยวัสดุที่ไม่ค่อยคงทน เนื่องจากเป็นชาวคริสต์ที่ไม่ค่อยมีฐานะ ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ก็ได้มีสังฆราชฌ็อง บัพติสท์ ปาลเลอกัวซ์ (Bishop Jean-Baptiste Pallegoix) บาทหลวงชาวโปรตุเกส เข้ามาสร้างโบสถ์ขึ้นมาใหม่ โดยสร้างเป็นอาคารแบบก่ออิฐถือปูนทรงวิลันดา ที่ผสมผสานรูปแบบอาคารไทยและตะวันตกเข้าด้วยกัน เมื่อเข้าสู่สมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โยอาคิม กราซี (Joachim Grassi) ก็ได้ออกแบบหอระฆังขึ้นมาใหม่ เป็นหอระฆังแบบก่ออิฐถือปูน ในปัจจุบันโบสถ์คอนเซ็ปชัญไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนัก
วัดคอนเซ็ปชัญแห่งนี้ เหมาะที่จะมาเยี่ยมชมในช่วงที่มีเทศกาลสำคัญ ทั้งช่วงวันฉลองแม่พระไถ่ทาส หรือแห่แม่พระขนมจีน ซึ่งตรงกับวันที่ 24 กันยายน โดยจะมีการแห่รูปแม่พระเก่าแก่ที่อัญเชิญมาจากเมืองเขมรในช่วงรัตนโกสินทร์ตอนต้นและการจัดเลี้ยงอาหารประจำหมู่บ้าน คือขนมจีนแกงคั่วไก่ และอาหารพื้นบ้านอื่นๆ มากมาย หากอยากชมพิธี ‘ถอดพระ’ หรือละครศักดิ์สิทธิ์เกี่ยวกับการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูบนไม้กางเขน ต้องมาช่วง วันพระตาย หรือวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ ในเดือนเมษายน พิธีนี้จะคล้ายกับพิธีในประเทศฟิลิปปินส์ เป็นพิธีที่หาชมได้ในไทยเพียง 2 แห่งเท่านั้น คือในชุมชนบ้านเขมรแห่งนี้ และชุมชนวัดซางตาครู้ส รวมถึงวันฉลองแม่พระปฏิสนธินิรมล วันที่ 8 ธันวาคม งานฉลองประจำปีของโบสถ์และวันคริสต์มาส โดยในวัน 24 ธันวาคม หรือคริสต์มาสอีฟ จะมีประเพณีทำขนมฝรั่งโปรตุเกสออกจำหน่าย และขนมอีกหลายชนิด เช่น ขนมกุสรัง (หรือปุสรัง) ขนมปัสแตง ที่หาทานได้ที่นี่ที่เดียว
รายละเอียดเพิ่มเติม
-
ประเภทของสถานที่ : ศาสนสถาน
-
ที่ตั้ง: 167 ซอยมิตรคาม ถนนสามเสน แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300
-
สิ่งอำนวยความสะดวก: มีบริการที่จอดรถ
-
ผู้ดูแล: คุณพ่อกิตติศักดิ์ กาญจนธานินทร์ (2004 - ปัจจุบัน) ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน
-
เบอร์โทรศัพท์: 02-243-2617, 02-243-0064 โทรสาร : 02-668-7775
วัดนักบุญฟรังซิสเซเวียร์
(Wat Saint Francis Xavier Clinic)
วัดนักบุญฟรังซิสเซเวียร์ สร้างขึ้นบนที่ดินพระราชทานที่ตั้งอยู่ในเขตที่อยู่อาศัยของชาวญวนที่อพยพมายังสยามตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 เดิมทีวัดแห่งนี้มีชื่อว่า วัดแซงต์ฟรังซัวซาเวียร์ สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นศาสนสถานให้กับชาวญวนที่นับถือศาสนาคริสต์ ทว่าสร้างได้เพียง 3 ปี ก็ได้รับความเสียหายจากพายุเมื่อ พ.ศ. 2380 ต่อมาวัดแห่งนี้ก็ถูกสร้างขึ้นใหม่ พร้อมกับได้รับประติมากรรมแม่พระและนักบุญฟรังซัวซาเวียร์จากกรุงมะนิลา ที่พระสังฆราชกูรเวอซี ประมุขมิสซังกรุงสยามมอบให้ มาประดิษฐานภายในวัดด้วย จากนั้นก็เริ่มสร้างโรงเรียนสำหรับสอนภาษาญวนให้กับเด็ก ในปัจจุบันโรงเรียนแห่งนี้ได้รับการรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว
ภาพถ่ายเก่าวัดนักบุญฟรังซิสเซเวียร์
(ที่มา : https://catholichaab.com/main/index.php/1/church7/2/1256-2016-07-15-03-39-09)
รวมแล้ววัดแห่งนี้ใช้เวลาสร้างทั้งสิ้น 10 ปี โดยวัดใช้วิธีการสร้างแบบก่ออิฐถือปูนโดยไม่มีการใช้โครงสร้างเหล็กและการก่อเสาเข็ม มีสถาปัตยกรรมแบบนีโอ โกธิค (neo-gothic) ภายในประดับกระจกสีเล่าเรื่องราวจากคัมภีร์ไบเบิล และจารึกภาษาญวนจื๋อโนม (ภาษาที่ชาวเวียดนามพัฒนาตัวอักษรจีนเพื่อใช้ในการเขียนภาษาเวียดนาม) ไว้เหนือพระแท่น
รายละเอียดเพิ่มเติม
-
ประเภทของสถานที่ : ศาสนสถาน
-
ที่ตั้ง: 94 ซอยมิตตคาม ถนนสามเสน แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300
-
สิ่งอำนวยความสะดวก: มีบริการที่จอดรถ
-
ผู้ดูแล: คุณพ่อโกลแดต์ (เจ้าอาวาส)
-
เบอร์โทรศัพท์: 02 243 0060
-
เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/chatchanok.nid/
ศาลเจ้าจุ่ยบ่อเนี้ย
ในอดีตชาวจีนที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานใหม่ในประเทศไทยโดยเรือสำเภาจะถูกเรียกว่าชาวจีนโพ้นทะเล พวกเขาได้นำพาวัฒนธรรมและความเชื่อติดตัวมาด้วย โดยพวกเขาเชื่อและเคารพนับถือใน “เจ้าแม่ทับทิม” เพราะเชื่อว่าเจ้าแม่ทับทิมคือเทพธิดาแห่งท้องทะเล ผู้คอยช่วยเหลือและปกปักรักษายามเดินทางออกทะเล
เมื่อชาวจีนโพ้นทะเลเริ่มตั้งถิ่นฐาน ก็ต้องสร้างศาลเจ้าแม่ทับทิมขึ้นมาด้วย เช่นเดียวกับย่านชุมชนเก่าสามเสนที่มีศาลเจ้าจุ่ยบ่อเนี้ยตั้งอยู่ภายในชุมชน บริเวณสะพานซั้งฮี้ ศาลเจ้าแห่งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งศาสนสถานเก่าแก่ของประเทศไทยที่สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2385 หรือสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 สิ่งที่น่าสนใจคือ ศาลเจ้าแม่ทับทิมแห่งนี้เป็นศาลเจ้าขนาดใหญ่เพียงแห่งเดียวที่สร้างโดยชุมชนชาวไหหลำในช่วงสมัยต้นรัตนโกสินทร์ เดิมทีศาลเจ้าแห่งนี้เป็นศาลเจ้าขนาดเล็ก ยังไม่มีหลังคาตามแบบสถาปัตยกรรมฮกเกี้ยน ต่อมาในภายหลังถึงมีการสร้างต่อเติมขึ้นมา เป็นลักษณะแบบ “เรือนล้อมลาน” โดยมีอาคาร 4 หลังล้อมรอบ แล้วเว้นพื้นที่โล่งตรงกลางไว้ เพื่อระบายอากาศจากควันธูป ภายในมีการประดิษฐานเจ้าแม่ทับทิมที่สร้างด้วยไม้ และสวมเครื่องทรงสีแดง นอกจากชาวไหหลำในย่านนี้แล้ว ยังมีชาวจีนจากชุมชนอื่นมาสักการะเพื่อขอพรให้แคล้วคลาดปลอดภัย การเงิน การงาน โชคลาภ และขอให้บุตรหลานสอบได้ตำแหน่งดีๆ กันเป็นจำนวนมาก อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญภายในศาลเจ้าแห่งนี้คือกระถางธูปเครื่องสังเค็ด ซึ่งเป็นกระถางธูปในพระราชพิธีพระบรมศพของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 พระราชทานกระถางธูปดังกล่าวมาให้ศาลเจ้าแห่งนี้ถึง 5 กระถาง
รายละเอียดเพิ่มเติม
-
ประเภทของสถานที่ : ศาสนสถาน
-
ที่ตั้ง: 681 ถนนสามเสน แขวง วชิรพยาบาล เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300
-
Facebook : https://th-th.facebook.com/TubtimKTB/
ตลาดบ้านญวนสามเสน
ตลาดบ้านญวนตั้งอยู่บริเวรพื้นที่ชุมชนญวน ซอยสามเสน 13 โดยชุมชนญวนเริ่มต้นขึ้นจากการย้ายเข้ามาของชาวญวนตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ทรงมีนโยบายจัดการพื้นที่อยู่อาศัยให้กับชาวญวน ด้วยการให้แยกกันอยู่ตามศาสนาที่นับถือและแยกกันอยู่ตามสาเหตุที่อพยพเข้ามา ชาวญวนที่นับถือศาสนาคริสต์และติดตามกองทัพเข้ามา ให้ไปอยู่รวมกับชาวเขมรและคนเชื้อสายโปรตุเกส คนญวนคริสต์ที่อาศัยในตำบลสามเสนอยู่แต่เดิมจึงเรียกคนญวนเหล่านี้ว่า ญวนสวามิภักดิ์ บริเวณตำบลสามเสนจึงกลายเป็นชุมชนญวนที่มีขนาดใหญ่ และเกิดตลาดญวนสามเสน อันเป็นตลาดญวนแหล่งใหญ่และเป็นที่รู้จักกันดีตั้งแต่สมัยต้นรัตนโกสินทร์จนถึงปัจจุบัน ส่วนชาวญวนที่นับถือศาสนาพุทธนั้นทรงให้ไปอยู่ที่ตำบลบางโพ รวมกับชาวญวนพุทธเก่าที่เข้ามาตั้งแต่ครั้งพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1 นอกจากนี้ตลาดบ้านญวนยังมีอัตลักษณ์ของชุมชนญวนสามเสนที่ยังคงหลงเหลือเห็นได้ในปัจจุบันนั้น คือ อาหารเช้าแบบชาวญวนที่สืบทอดต่อมาจากบรรพบุรุษ เช่น ปริมญวน บัวลอยญวน เป็นต้น
รายละเอียดเพิ่มเติม
-
ประเภทของสถานที่ : ตลาด, ย่านค้าขาย, แหล่งวัฒนธรรมท้องถิ่น
-
ที่ตั้ง: ซอยสามเสน 13 (ซอยพระอรรถ) ถนนสามเสน แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิต
-
กรุงเทพมหานคร 10300
-
สิ่งอำนวยความสะดวก: มีร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ
-
ผู้ดูแล: ชุมชนบ้านญวน
-
เบอร์โทรศัพท์: 083 832 5330
-
Facebook: ตลาดบ้านญวนสามเสน
สำนักหอสมุดแห่งชาติ
(ที่มา : https://www.nlt.go.th)
สำนักหอสมุดแห่งชาติ เป็นหน่วยงานในสังกัดกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม เป็นแหล่ง รวบรวมจัดเก็บ สงวนรักษา และอนุรักษ์มรดกทรัพย์สินทางปัญญาของชาติ ในรูปของหนังสือ ตัวพิมพ์ เอกสารโบราณ ได้แก่ ศิลาจารึก คัมภีร์ใบลาน หนังสือสมุดไทย วิทยานิพนธ์และวิจัยทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษรวมทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ สื่อโสตทัศน์ และสื่ออิเล็กทรอนิคส์ และยังทำหน้าที่ให้บริการความรู้และข่าวสารให้กับคนในชาติ
สิ่งที่หอสมุดแห่งชาติรวบรวม จัดเก็บ อนุรักษ์ และให้บริการคือเอกสารโบราณประเภทต่าง ๆ ซึ่งเป็นมรดกศิลปวัฒนธรรมสะท้อนภูมิปัญญาในการบันทึกสรรพวิทยาการของบรรพชนไทย และยังจัดเก็บหนังสือหายากและเอกสารที่มีคุณค่าเป็นมรดกทรัพย์สินทางปัญญาของชาติทั้งด้านเนื้อหาและด้านการพิมพ์ ที่มีเก่าแก่กว่าร้อยปี ไปจนถึงงานวิจัยวิทยานิพนธ์ต่าง ๆ ที่สามารถเข้ามาค้นคว้าหาข้อมูลเพื่อการเรียนรู้ทั้งเชิงวิชาการและความรู้ทั่วไปได้
บ้านอาจารย์ฝรั่ง
Craftsman Roastery
(ที่มา : https://1th.me/L9798)
Craftsman Roastery เป็นแบรนด์ร้านกาแฟโดยมี คุณแวว เนตรนภา นราธัศจรรย์ เป็นเจ้าของ แต่เดิมมีสาขาอยู่ที่ซอยเย็นอากาศ สำหรับสาขาบ้านอาจารย์ฝรั่ง อาคารเก่าวิคตอเรียนเรอเนสซองส์ เชิงสะพานซังฮี้ สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 อดีตบ้านพักของอาจารย์ศิลป์ พีระศรี บุคคลสำคัญด้านศิลปะสมัยใหม่ในประเทศไทย ถูกปรับปรุงให้กลายเป็นคาเฟ่สำหรับคอกาแฟ โดยยังคงรูปลักษณ์ของอาคารไว้ ภายนอกอาคารทาด้วยสีเหลืองซึ่งเป็นการปรับปรุงไว้อยู่ก่อนแล้ว ภายในถูกกะเทาะสีเพื่อเผยให้เห็นผนังดั้งเดิมของอาคาร ชั้นบนของอาคารเป็นหอศิลป์ขนาดย่อม จัดแสดงงานของศิษย์รุ่นแรกของอาจารย์ศิลป์เป็นส่วนใหญ่ โดยคาเฟ่แห่งนี้นอกจากชื่อเสียงด้านกาแฟแล้วยังมีบริการอาหารเมนูต่างๆ อีกด้วย เหมาะกับผู้ที่เป็นคอกาแฟหรือต้องการหาร้านสำหรับนั่งทานอาหารพักผ่อนในบรรยากาศที่มีกลิ่นอายสไตล์วินเทจ
รายละเอียดเพิ่มเติม
-
ประเภทของสถานที่ : คาเฟ่, หอศิลป์
-
ที่ตั้ง: 153 ถนนราชวิถี แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
-
สิ่งอำนวยความสะดวก: มีบริการที่จอดรถ และ ที่นั่งพักผ่อน
-
ผู้ดูแล: หน่วยงานราชการ
-
เบอร์โทรศัพท์: 065 234 0044
-
Facebook: https://www.facebook.com/chatchanok.nid/
สะพานกรุงธน (สะพานซังฮี้)
สะพานกรุงธนสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2497 โดยบริษัท ฟูจิ คาร์แมนูแฟ็กเจอริ่ง จำกัดของประเทศญี่ปุ่น และเปิดบริการครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2501 โดยสะพานแห่งนี้เริ่มต้นที่ถนนราชวิถีหรือถนนซังฮี้ ในช่วงแรกประชาชนจึงเรียกว่า สะพานซังฮี้ ปัจจุบันก็ยังคงมีการเรียกชื่อนี้กันอยู่ สำหรับคำว่า "ซังฮี้" เป็นชื่อเรียกของเครื่องถ้วยชามประเภทหนึ่งของจีน “กิมตึ้ง” มีลวดลายสวยงาม จึงเป็นที่นิยมสะสมเป็นของมีค่ากันในช่วงสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 และเมื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชวังดุสิตขึ้น จึงได้พระราชทานนามตำหนัก ถนน สะพานและคลองต่าง ๆ ภายในพระราชวังดุสิตเป็นชื่อเครื่องกิมตึ้งของประเทศจีนทั้งสิ้น จึงเป็นที่มาของชื่อ ซังฮี้ มีความหมายว่า "ยินดีอย่างยิ่ง" ถือเป็นคำมงคลของจีน ซึ่งในช่วงแรกสร้างสะพานนั้น มีระยะทางจากแม่น้ำเจ้าพระยาไปจนถึงบริเวณด้านหลังพระราชวังดุสิตต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อถนนซังฮี้เป็น "ถนนราชวิถี" เมื่อมีการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งใหม่ ภายหลังเมื่อสร้างเสร็จแล้วรัฐบาลได้จึงให้ชื่อว่า สะพานกรุงธน
รายละเอียดเพิ่มเติม
-
ประเภทของสถานที่ : แหล่งชมวิว
-
ที่ตั้ง: ถนน ราชวิถี แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300
-
สิ่งอำนวยความสะดวก: มีท่าเรือจอดใกล้สะพาน
-
ผู้ดูแล: กรมทางหลวงชนบท